น้ำหอมแท้-ฟีโรโมน

Posted by pheromoneTH.com

BLOG เกี่ยวกับ น้ำหอม น้ำหอมแท้ น้ำหอมแบรนด์เนม น้ำหอมฟีโรโมน ฟีโีรโมน กลิ่นเรียกรัก เพิ่มรัก สร้างเสน่ห์ ปลุกอารมณ์ หญิง ชาย ทอม ดี เลสเบี้ยน เกย์ กระเทย เห็นผลแน่นอน ของแท้ 100% รวมบทความวิจัยประสาืทสัมผัส รับรู้กลิ่น รีวิว pheromone

OUR SHOP : PheromoneTH.com

ร้านขายฟีโรโมน PheromoneTH.com

Posted by น้ำหอมแท้-ฟีโรโมน On 2010-03-15

ขายน้ำหอมฟีโรโมน ของแท้ 100% นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย มีใบรับรองเป็นตัวแทนจำหน่าย

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

ผู้ชายมีอารมณ์มากที่สุดเมื่อผู้หญิงพร้อม!! คุณรู้ไหมมันคือช่วงไหน?

ตามธรรมชาติ ผู้หญิงจะดึงดูดเพศตรงข้าม หรือดึงดูดชายได้มากที่สุด ช่วงไข่ตก ! เพราะอะไร ก็เพราะเป็นธรรมชาติที่มนุษย์ต้องการสืบพันธ์ มันก็ต้องมีการล่อ ดึงดูดกันหน่อย กลิ่นจะแรงสุดๆเมื่อเธอพร้อมมีลูก นั่นคือช่วงเวลาที่ไข่ตกนั่นเอง สา่วๆลองสังเกตุดูได้ ช่วงไข่ตกจะดูสวยใสเป็นพิเศษ ไม่เหมือนช่วงก่อนเมนส์จะมา (นั่นคือเลยช่วงไข่ตกไปล๊ะไข่ฝ่อจะหลุดมาเป็นเมนส์แล้ว) ช่้วงเมนส์นี่ควรเลี่ยงเลย จะเหวี่ยง ไม่น่ารักนี่ พูดจริงๆนะเนี่ย

จากการวิจัยต่างๆนานา... พิสูจน์ได้ว่า กลิ่นหรือฟีโรโมนตามธรรมชาติสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้
รวมถึงการวิจัยชิ้นนี้ที่ pheromoneTH.com เอามาฝากกันด้วย ^^

-----

"กลิ่นตัวสาว เพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายในเพศชาย ทำให้เกิดอารมณ์ได้"

ภาพข่าวจาก www.webmd.com
 
กลิ่นจากผู้หญิงที่สร้างตามธรรมชาติอาจเพียงพอแล้วสำหรับการดึงดูดเพศชาย เพราะจากการทดลอง ของ Saul L. Miller and Jon K. Maner of Florida State University in Psychological Science เค้าได้ให้ผู้ชายดมกลิ่นจากเสื้อของผู้หญิงที่ใส่ในช่วงรอบเดือนที่แตกต่างกันไป มีทั้งผู้หญิงที่ใส่เสื้อในช่วงที่ไข่ตก ช่วงที่มีเมนส์หรือมีรอบเดือน ฯลฯ โดยทีมวิจัยมีการวัดระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ testosterone ไว้ทั้งก่อนและหลังดมกลิ่นเสื้อของผู้หญิง ผลที่ออกมาคือ ระดับฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้นเมื่อดมกลิ่นเสื้อของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงไข่ตก (พร้อมจะมีลูกได้ตามธรรมชาตินั่นเอง) นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ของพวกเขาด้วยที่พบว่า "ผู้ชายจะรับรู้กลิ่นผู้หญิงได้และรู้สึกสบายที่สุดเวลาอยู่ในรอบเวลาการตกไข่" 

** ในการทดลอง มีระยะใกล้และไกลการตกไข่ ผู้ชายเลือกใกล้ระยะการตกไข่ทั้งหมด !! 

นักวิจัยกล่าวว่า ผลการทดลองยืนยันได้ว่า พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของมนุษย์ อาจได้รับผลบางอย่างจากประสาทสัมผัสแบบเดียวกับที่พบในสัตว์ประเภทหนู

----- 


จบผลการวิจัย จริงอยู่ที่ธรรมชาติสร้างมาให้แล้ว
แต่สำหรับบางคนเกิดได้มาขาดๆเกินๆ มากไปบ้าง น้อยไปบ้าง
"กลิ่นสเน่ห์" ยังไม่ลงตัว แบบนี้ปรึกษา PheromoneTH.com ได้นะคะ ^^
ดูที่ shop ได้เลยมีหลายแบบหลายกลิ่นมากมาย

ที่สำคัญของการเลือกใช้ น้ำหอมฟีโรโมน คือ หาตัวเองให้เจอ
ว่าเรามีอะไรอยู่ เป็นแบบไหน และขาดอะไร เติมในสิ่งที่ขาดและ้ต้องการ
ง่ายๆแค่นี้เองถ้าอ่านแล้วยัง งง มึนตึ๊บ มา... เดี๋ยวช่วยเลือก
ส่งเมลมาถามได้เลย PheromoneTH@gmail.com

คราวหน้าจะหาเรื่องมาฝากคุณผู้ชาย ดึงดูดสาวๆกันบ้าง
รู้สึกว่าจะมีแต่เรื่องสาวๆึดึงดูดหนุ่มๆเน๊อะ
ขออภัย แบบว่าข้อมูลมัุนเยอะ แม่ค้าเป็นผู้หญิงนี่นะ อิอิ
แต่เรื่องผู้ชาย เดี๋ยวหาให้ ส่วนเรื่องเทสนี่ปล่อยเป็นหน้าที่น้องชายเลย
คงเทสด้วยตัวเองไม่ได้อะนะ - -"



แล้วจะมาอัพเดทใหม่จ้า
-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------



SOURCE :
http://fooyoh.com/iamchiq_living_sexualrelationship/4760890
http://men.webmd.com/news/20100115/womens-scent-triggers-hormone-surge-in-men
พวกผู้ชายนี่ก็แปลก พอได้ยินคำว่ามารยาหญิงเท่านั้นแหละ ทำท่ารังเกียจยังกับเจอเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่หารู้ไม่ว่า เจอทีไรเป็นต้องเข่าอ่อนทู้ก...........ที แต่อย่าว่า แต่ผู้ชายเลย ผู้หญิงบางคนบอกว่า จะให้ใช้มารยารึ ฉันยอมกินข้าวมันไก่ใส่คากิให้ตัวอ้วนกลมเสียยังดีกว่า

แหม... เกิดมาในยุคหญิงห้าวกร้าวแกร่ง เก่งสารพัดจะเรียกว่าโชคดีก็ใช่ที่ ผู้หญิงเราพึ่งพาตัวเองได้ แต่ก็อาจทำให้ความอ่อนหวานแบบผู้หญิงกร่อยลงไป ถึงเวลายืมภูมิปัญญาดั้งเดิมของเรามาศึกษาดูบ้างแล้วล่ะ ซึ่งหลังจากปัดฝุ่นเปิดตำราแล้ว ก็ได้มาตั้ง 7 + 1 ข้อทีเดียว เริ่มเลยแล้วกัน





1. อ่อนแอ


     ถึงจะเป็นหญิงบึกบึนมาตั้งแต่เกิด แต่จะน่าเอ็นดูขึ้นมาก ถ้าเหลือพื้นที่ไว้ให้ฝ่ายชายได้แสดงความแข็งแกร่งบ้าง เพราะฉะนั้นพลังระดับยกถังแก๊สเข้าครัว หรือย้ายโอ่งมังกรน่ะ เก็บไว้ทำตอนที่เขาไม่อยู่ เวลาที่สามีอยู่บ้านก็ขอความช่วยเหลือด้านพละกำลังจากสามีดีกว่า เพื่อเขาจะได้เป็นผู้ที่แมนสุด ๆ ในบ้านนั่นเอง

  2. เอิ๊กอ๊าก

      ผู้หญิงอารมณ์ดีร่าเริง ใคร ๆ ก็อยากอยู่ด้วย เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทีนี้พอเจอภาระรับผิดชอบอันแสนจะหนักอึ้ง ต่อมร่าเริงของเราก็มักจะฝ่อ ถ้าอยากเป็นสาวสดใสคนเดิม ก็ต้องรู้จักหาเวลาพักเพื่อชาร์จแบตใหม่ เลิกกระเตงปัญหาติดตัวตลอดเวลา ควรลืม ๆ ไปบ้าง หัดมีมุกตลกคิกคัก แล้วพยายามมองเรื่องดี ๆ ชี้ชวนให้ฝ่ายชายชมบ้าง อย่างนี้ถึงจะค่อยน่าอยู่ใกล้ ๆ หน่อย

  3. ออดอ้อนออเซาะ

      เมื่อขอกันดี ๆ ไม่รู้เรื่อง จะงอนไป 3 วัน แปลงร่างเป็นนางยักษ์นางมารส่งเสียงแหวแว้ดบ่อย ๆ ก็ใช่ที่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลตามต้องการแล้ว ยังเสียทั้งอารมณ์และภาพพจน์อีกต่างหาก ถ้าบางเรื่องเราปรับมาใช้โหมดออดอ้อนบ้าง โอกาสสำเร็จย่อมมากกว่า บรรยากาศในบ้านก็จะได้คลายความตึงเครียดลงไป เพราะได้ความหวานเข้ามาแทนที่

  4. Oh! My Hero


      ทุกคนอยากเป็นคนเก่ง คนดี มีคนชม ถ้ารู้อยู่เต็มอกว่า "เขา" มีความดี ความเก่ง หรือประกอบวีรกรรมใดมาบ้าง อย่าเก็บไว้ใจในคนเดียว ชื่นชมให้พ่อตาแม่ยาย เพื่อนพ้องน้องพี่รับรู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง กับตัวเขาเองก็ชมตรง ๆ บ้าง แต่อย่าให้มากจนทำให้เขารู้สึกเลี่ยนแทนที่จะปลื้มก็แล้วกัน

  5. เอาอกเอาใจ

     อยู่กันไปนาน ๆ เรามักจะเผลอคิดว่าไม่ต้องเอาใจกันหรอก ผิดซะแล้ว ผู้หญิงเรายังต้องทำอยู่นะคะ เพื่อสร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้เขา เอาใจเขาในวันธรรมดา วันละนิดละหน่อย ทำเรื่องง่าย ๆ แต่ทำบ่อย ๆ ให้เขารู้ว่าเราใส่ใจ โดยเฉพาะในยามที่เขามีปัญหาเคร่งเครียด หรือเจ็บป่วย ถ้าหมั่นดูแลเอาใจไม่ทอดทิ้ง เขาจะซาบซึ้งใจเป็นพิเศษ

  6. อิงแอบ

     ภาษากาย เช่น การอิงแอบ การโอบกอด จับมือเขาไว้บ้าง เป็นการแสดงออกถึงความรักได้ไม่แพ้คำพูดหวาน ๆ เพราะผู้หญิงเรามีลูกแล้วใช่ว่าจะลืมโลกลืมสามี อย่างไร ผู้ชายก็ยังต้องการเป็นที่รักสำหรับเราอยู่ เพราะฉะนั้นต้องหาวิธีบอกให้เขารู้

  7. อ่อนโยนอบอุ่น

     ควรทราบไว้นิดนึงว่า ผู้ชายไม่ว่าอายุเท่าไร ก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวตลอด เพราะฉะนั้นจะงอแงและป่วนจัดในบางเวลา เช่น เวลาไม่ได้ดั่งใจ ผิดหวัง ผิดพลาด โดนบ่น หรือถูกต่อว่าต่อขาน ต้องสยบอาการงอแงด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่น คอยเป็นกำลังใจ และกองเชียร์ ไม่ทอดทิ้งเขาในยามที่เขาต้องการใครสักคน คำปรึกษาอาจไม่จำเป็นด้วยซ้ำ บางครั้งเขาก็อยากคิดได้ด้วยตัวเอง

  +1. เอ๊กอี้


      คือว่าข้อนี้เป็นข้อที่เพิ่มมาอีก 1 ข้อ จึงขอไปแบบน้ำขุ่น ๆ ว่า หมายถึง "เซ็กซี่" นั่นเอง ผู้หญิงเราครั้นจะให้หัวฟูดูกระเซิงก็เกรงว่าจะขาดความรื่นรมย์ทางสายตาว่า ไหมคะ ต้องมีสวย และบางครั้งมีเซ็กซี่บ้างเพื่อสร้างแรงดึงดูดระหว่างกัน ไม่ให้เขาหลุดจากวงโคจรไปสู่ระบบจักรวาลอื่นนั่นเอง


ได้เคล็ดวิชาไปตั้ง 7 + 1 ข้อแล้ว อย่างน้อยน่าจะมีโอกาสใช้ให้เกิดประโยชน์สักข้อสองข้อแหละน่า


ขอบคุณที่มาบทความจาก  ModernMom
เชื่อว่าช่วงเวลา รักแรกเจอ หรือ Love at first sight อาจเคยเกิดขึ้นกับคุณมาแล้วในชีวิต และ บางคนก็มักพูดติดตลกว่า รักแรกเจอของตนเอง นั้นเกิดขึ้นแทบทุกวัน เคยสงสัยกันไหมว่า รัก ในแรกพบประสบพักตร์นี้ เกิดด้วยเหตุผลกลใด จากความเห็นที่พิจารณาด้วยความรู้สึก คุณอาจอธิบายได้ว่ามันเป็นเรื่องของหัวใจ ใช้กระบวนการใดก็พิสูจน์ได้ แต่ถ้าจะมองให้มันเป็นเรื่องราวที่มีเหตุมีผลแบบวิทยาศาสตร์ล่ะ เราจะมองอย่างไร

รู้หรือไม่ว่า วิทยาศาสตร์เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนตกหลุมพรางความรักตั้งแต่ แรกดมเลย คือ กลิ่น และคุณอาจเป็นคนหนึ่งในนั้นที่เผลอตกหลุมรักใครสักคนเพียงเพราะ
“กลิ่น”


 
ความลับของกลิ่นความรัก

       นานแล้วที่มนุษย์ใช้เครื่องหอมเพื่อการตกแต่งกลิ่นหายให้น่าเย้ายวน ใจ และเพื่อดึงดูดคู่รักของตน รวมถึงการเข้าสังคม โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทดลองใด ๆ ว่ามีเพียงความเชื่อว่ากลิ่นหอมจะกระตุ้นความสนใจได้ แต่แล้วยุคหนึ่งมีค้นพบว่า สัตว์ได้ใช้ประโยคของกลิ่น ในการดำรงเผ่าพันธุ์โดยกลิ่น ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นได้ซุกซ่อนสารเคมีที่เรียกว่า ฟีโรโมน (Pheromone)

       โดยสารเคมีชนิดนี้ซุกซ่อนอยู่จากการค้นพบใน การคัดเลือกโดยธรรมชาติของชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) กลิ่นรักนี้เองที่ทำให้สัตว์เกิดความเสน่หาและต้องการสืบพันธุ์ และเรื่องราวของกลิ่นที่สัตว์ใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์ หรือพูดได้ว่ามันใช้ในการสื่อสารที่มี การใช้ประโยชน์จากกลิ่นนี้ อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ หนึ่ง การใช้เพื่อป้องกันตัว พวกแมลงที่มีกลิ่นเหม็นต่าง ๆ สอง ใช้เพื่อสื่อสาร และสาม ใช่เพื่อการดึงดูด สร้างเสน่ห์ อย่างที่พบได้ในสัตว์ต่าง ๆ อาทิ กวางมูส ที่มีต่อมน้ำหอมซึ่งจะคอยปล่อยกลิ่น และชะมดเช็ด


กวางมูส หนึ่งสายพันธุ์ที่มีฟีโรโมนที่โด่งดัง

       แต่ กับมนุษย์และสัตว์ตระกูลไพรเพตอย่าง ลิง กลับถูกปฏิเสธเสมอมาว่า มนุษย์ไม่มีสารเคมีอย่างสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ดึงดูดด้วยกลิ่น เพราะธรรมดาแล้วมนุษย์น่าจะถนัดเรื่องกลิ่นตัวที่เหม็นมากกว่า และหากมนุษย์จะจัดเข้ากับประเภทของกลิ่น ก็น่าใช้กลิ่นเพื่อการสื่อสารเสียมากกว่า
       แต่แล้วการวิจัยในปัจจุบันพบว่า มนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์อื่น ๆ ที่ฟีโรโมนมีอิทธิพลต่อมนุษย์ด้วย เพราะ มีการศึกษาแล้วพบว่า ในจมูกทั้ง 2 ข้างของมนุษย์ที่สูดอากาศดมกลิ่นนี้จะสามารถรับสารฟีโรโมนได้ด้วย
       พอล บราคา (Paul Broca) แพทย์ชาวฝรั่งเศสได้ทำการศึกษาเรื่องทักษะการดมกลิ่น โดยเปรียบเทียบระหว่าง ลิง ลิงเอป์ (Ape) และคน พบว่าทักษะการดมกลิ่นของทั้ง 3 ชนิด มีความเชื่อมโยง พัฒนามาจากสัตว์ สี่เท้า นี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่ามนุษย์ผลิตและรับสาร ฟีโรโมนได้



ฟีโรโมนกับความรัก

       ฟีโรโมน ซึ่งในบางครั้งก็มีผู้เรียกว่าสารเคมี แห่งความรักและความใคร่นี้ เกิดขึ้นจากหลัก ๆ จาก 3 ต่อมผิวหนังในร่างกาย ได้แก่

       - ต่อมผลิตไขมัน (Sebaceous glands) พบมากบริเวณใบหน้า หน้าผาก และปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย หนังตา หู จมูก เป็นต้น

       - ต่อมเหงื่อ (Eccrine sweat glands) พบได้ทั่วร่างกาย

       - ต่อมที่เกี่ยวกับการสร้างกลิ่นตัว ซึ่งทำงานสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ (Apocrine glands) ต่อมนี้คือเบื้องหลังคำว่า กลิ่นหนุ่ม กลิ่นสาว และเป็นต่อมสำคัญในการสร้างฟีโรโมนมนุษย์ ที่ถือได้ว่าเป็นต่อมพิเศษด้านกลิ่น และความรักและอารมณ์พิศวาส ซึ่งกลิ่นที่ออกมาพร้อมสารเคมีพิเศษนี้สามารถส่งผลกระทบระหว่างบุคคลได้ นั่นหมายความว่าเมื่อกลิ่นนี้ถูกขับออกมาจากบุคคลหนึ่ง แล้วมีบุคคลอื่นอยู่ใกล้ ๆ และได้รับ ก็อาจ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกได้เลยทีเดียว
       ต่อม Apocrine glands ทำงานได้โดยไม่จำกัดอุณหภูมิ แต่จะพัฒนาใช้การได้เริ่มในวัยหนุ่ม-วัยสาว อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปจนถึง 15 ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ โดยจะปรากฏอยู่บริเวณมือ แก้ม หนังศีรษะ หน้าอก เป็นต้น
       จากต่อมทั้ง 3 นี้ จะเห็นได้ว่าบางสิ่งที่เกิดขึ้น ในร่างกาย บางครั้งเราเคยได้รับผลของมัน ซึ่งเกิดขึ้นเพราะสารแห่งความรักที่เรียกว่า ฟีโรโมน หากบางคน ยังสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือ ลองนึกดี ๆ ว่าคุณเคยจดจำคนคนหนึ่งจากกลิ่นของเขาหรือไม่ ไม่ว่ากลิ่นเรือนผม จดจำจากกลิ่นหอมจากแก้ม นี่ล่ะฟีโรโมนมนุษย์และต่อมสร้างกลิ่น




ฟีโรโมน เคมีความรักอันลึกลับ

       อย่างที่ได้ทราบถึงต่อมต่าง ๆ ที่มีผลต่อ การสร้างกลิ่นแห่งความรักของมนุษย์ จะเห็นว่า ฟีโรโมนมนุษย์ไม่เพียงควบคุม ส่งผลต่ออารมณ์เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลต่อความรู้สึกที่ซับซ้อนของอารมณ์รัก ด้วย โดยเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า มนุษย์ยังหลังเหลือมรดกทางพฤติกรรมจากสัตว์ เช่น ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่Apocrine glands จะคอยปล่อยกลิ่นเพื่อสื่อสารและ การรับรู้ในการเจริญพันธุ์ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการสื่อสารแห่งความรักด้วยความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อ กัน
       ในปี 1986 ได้มีองค์กรระดับโลกที่ทำการสำรวจด้านกลิ่นหอม กลิ่นมนุษย์ใช้ปรุงแต่งร่างกาย และกลิ่นต่าง ๆ ที่พบในชีวิตประจำวัน ในแบบสอบถามกว่าล้านฉบับ พร้อมยกตัวอย่างกลิ่นต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์รักของมนุษย์นั้น ได้ผลออกมาว่า กลิ่นที่นั้น ๆ ไม่สร้างผลใด ๆ รวมถึงค้นหาผลกระทบของกลิ่นต่าง ๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการทดสอบด้านกลิ่นนี้ ไม่ได้ผล เนื่องจากการสังเคราะห์กลิ่นขึ้นมาไม่ใช่กลิ่น ที่แท้จริง จึงไม่ทำให้เกิดผล โดยมันพิสูจน์ว่าการค้นหา ฟีโรโมนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะวัดหรือสำรวจได้ชัดเจน


กลิ่นกับคู่รัก ลึกลับซับซ้อน

       มีการศึกษาจากมากมายหลายครั้งเกี่ยวกับ การทดสอบว่า กลิ่นมีส่วนกับความชื่นชอบ ชื่นชม และมีเสน่ห์ที่ทำให้เกิดความหลงใหล ไม่ว่ากับคนหรือสัตว์ โดยมีข้อสันนิฐานคล้ายกัน คือ เพศชายมีความสามารถส่งกลิ่นที่ทำให้เพศตรงข้ามใหลได้ดีกว่า โดยจากการหนึ่งที่พิสูจน์ว่าเพศชายมีความสามารถส่งกลิ่นรักมากกว่า คือ การศึกษาของนักชีววิทยา จาก Cardiff University ประเทศเวลล์ ที่ร่วมมือกับ สมาคมวิทยาศาสตร์ Max-Plank Society จากประเทศเยอรมนี ได้ทำการศึกษาปลาสติกเคิลแบกค์ (Stickleback fish) เพื่อดูการตอบสนองต่อเคมีความรัก
       นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาพบว่า เพศผู้ มีกลิ่นกายที่ดึงดูดอย่างจำเพาะต่อ เพศเมีย จนทำให้ผลิตเปปไทด์ ซึ่งจะทำไปสังเคราะห์รวมกับเพื่อผลิตน้ำหอม มีคุณสมบัติในการเพิ่มความดึงดูดทางเพศของผู้ชายให้มากขึ้น และยังมีความสำคัญต่อการค้นหาคู่ที่เหมาะสมเข้าคู่กันอีกด้วย ดังนั้น หากกล่าวง่าย ๆ คือ เคมีจากร่างกายเพศผู้นั้นจะเชื่อมโยงกันกับเคมีของเพศเมีย ที่มีกระบวนการหนึ่งของร่างกายที่เรียกว่า Major Histocompatibility Complex (MHC) มีหน้าที่เพื่อดักจับ แยกแยะสาร หรือโมเลกุลใดที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นเปปไทด์ที่เพศเมียปล่อยออกมาเมื่อได้กลิ่นจากเพศผู้นั่นเอง ที่อาจเรียกว่าจะเข้ากันได้ รักกันได้นั้นต้องเข้ากันตั้งแต่ระดับ ยีนเลย 


กระบวนการของ MHC และ Peptide

       นักชีววิทยา ดอกเตอร์เซียน กริฟฟีตส์ (Dr. Sian Griffiths) กล่าวถึงการทดลองว่า กระบวนการนี้ถือเป็นการสื่อสารเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ และคัดเลือกคู่ซึ่ง มีอยู่สัตว์ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์ก็ใช้กระบวนการเดียวกันนี้
       ความ รักลึกลับซับซ้อนเกินกว่าจะพิสูจน์ อะไรได้ง่าย ๆ แต่วิทยาศาสตร์นั้นก็ยังคงความเป็นศาสตร์แห่งเหตุและผล ที่พยายามพิสูจน์ว่า รักเกิดเพราะอะไร แม้จะไม่อาจสรุปชัดเจน แต่วันนี้ก็รู้แล้วว่า เราควรพิถีพิถันเลือกน้ำหอมหรือรักษาเนื้อตัวให้มีกลิ่นกายที่น่าหลงใหล เพื่อให้กระบวนการร่างกายเราได้ปล่อยสารเคมีแห่งความรักไปกับกลิ่น เพื่อให้รักของเราลึกซึ้ง ลึกไปในระดับพันธุกรรม ลึกกว่าใครมองเห็น และลึกซึ้งตลอดไป...


_______________________________

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
1. www.sciencedaily.com
2. www.psychologytoday.com

SOURCE :
"กลิ่น" เคมีแห่งความรัก หอมหวน..ตราตรึง
SCI Cover Story วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2551
รวบรวมคำถามและคำตอบจากลูกค้า ที่สนใจ Liquid Trust
"ลิควิด ทรัส" น้ำหอมผูกพัน อ๊อกซิโทซิน (Oxytocin)
จาก PheromoneTH.com


  Liquid Trust ทำอะไรได้มั่ง? เยอะแยะงงอะ? สรุปมาเลยได้ไหม ดียังไง?  

คุณสมบัติเด็ดสำหรับ Liquid Trust คุณลูกค้าสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการงาน และชีวิตส่วนตัว โดยตัว "ลิควิดทรัส" จะเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกดี ผูกพันระหว่างคนสองคน ทำให้เกิดความรัก ความคิดถึง ความเข้าใจ ความไว้ใจ ความเชื่อใจ ความรู้สึก อบอุ่น ปลอดภัย และ ความสบายใจ ดีกับคนรัก แถมดีกับการเข้าสังคม คนอื่นจะชื่นชอบ ไปสัมภาษณ์งานก็จะถูกชะตา ! ใส่ไปขายงานก็จะมีแนวโน้มที่ดี ดึงดูดลูกค้าได้ ^^ สุดคุ้มในขวดเดียว

  Liquid Trust ใช้อย่างไร? แล้วใช้ได้นานแค่ไหน?  

บรรจุในรูปแบบขวดสเปย์ สามารถใช้งานได้ง่าย แค่ฉีดพรมตามร่างกาย, จุดชีพจรต่างๆ ฉีดเพิ่มระว่างวันได้ตามต้องการ ถ้าก่อนสัมภาษณ์ก็ฉีดทันทีก่อนสัมภาษณ์จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ สร้างสเน่ห์ให้คุณได้ ปริมาณในการใช้ 2-4 ครั้ง หรือ มากกว่านั้นก็ได้ตามความเหมาะสม ระยะเวลาออกฤทธิ์ 6-7 ชั่วโมง / ขนาด 7.5 ml (ใช้ได้นาน ประมาณ 3 - 4 เดือน) ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น

  Liquid Trust แตกต่างจาก น้ำหอมฟีโรโมน (Pheromone Perfume) อย่างไร  

คุณสมบัติใกล้เคียงคือทำให้รู้สึกดีเหมือนกัน แต่น้ำหอมฟีโรโมนจะเน้นในผลด้านการดึงดูดเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน บางตัวเน้นพิเศษด้าน sexual ส่วนมากสร้างรักสร้างความรู้สึกที่ถูกผลักดันจากฮอร์โมนเพศ 

สำหรับ Liquid Trust น้ำหอมแห่งความผูกผัน คือ ฮอร์โมน น้ำหอม ที่สามารถทำให้เกิดความผูกผันระหว่างกัน ให้ผลด้านความรู้สึกมากกว่า รู้สึกดี อบอุ่น อยากจะใกล้ชิด ผูกพัน รู้สึกดีๆต่อกัน

  Liquid Trust ผลิตที่ไหน และ มีขายที่ไหนบ้าง?  

ก่อนอื่นทำความเข้าใจนิดนึง น้ำหอมแห่งความผูกผัน อ๊อกซิโทซิน ( Oxytocin ) มีหลายแบรนด์ในตลาด แต่ทางร้านเลือกแบรนด์ Liquid Trust เข้ามาจำหน่ายในร้าน เพราะสำรวจจาก ranking ที่เห็นผลดีที่สุด และยังเป็นสินค้า อ๊อกซิโทซิน ชนิดแรกของโลกและประกอบกับทดลองด้วยตัวเองแล้วเห็นผลดี จึงตัดสินใจติดต่อเป็นตัวแทนจำหน่าย Liquid Trust ผลิตโดย สถาบันวิจัยชื่อ Verolabs ในประเทศ อเมริกา PheromoneTH.com เป็นร้านขายฟีโรโมน ที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ เราเป็นร้านแรกที่มีการคัดเลือก ทดสอบสินค้ากับคนไทยก่อนนำจำหน่ายในร้าน (บางชนิดทดลองแล้ว ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เราก็ไม่นำเข้ามาให้ลูกค้าเสียตังฟรีๆ) สำหรับ Liquid Trust เรานำเข้ามาเปิดให้ลูกค้าเก่าทดลองฟรีๆเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ที่อื่นที่นำมาจำหน่ายก็มีค่ะ อย่างไรให้สังเกตุใบอนุญาติจาก lab เพื่อความแน่นอนว่าคุณได้รับสินค้าของแท้ 100% จริงๆ เพื่อผลที่น่าพอใจค่ะ





#1 Oxyticin Spays

จาก เวปอเมริกา รีวิว น้ำหอมฟีโรโมน กลุ่มประเภท Oxytocin Spay
Liquid Trust จัดอยู่ในอันดับที่ 1 Top Rank no. one
ทดสอบความพอใจจากผู้ใช้จริง 150 คน ได้รับผลที่ดีสูงขึ้น 99%




  Related Link in this Blog :  
น้ำหอมผูกพัน อ๊อกซิโทซิน (Oxytocin) เกี่ยวกับความรักและผูกพันยังไง ?

Oxytocin: Nature's Trust Hormone

Oxytocin เป็นสารเคมีที่ผลิตโดยธรรมชาติในสมองของมนุษย์ทุกคน มีผลในการสร้างความ สัมพันธ์ทางสังคมเช่นที่เราเลือกคู่ที่เราพอใจ ความผูกพันกับคู่รัก หรือความผูกพันระหว่างแม่และเด็ก ในความเป็นจริง Oxytocin จึงมักได้รับการเรียกอีกชื่อนึงว่า "ฮอร์โมนรัก" (love hormone )

ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาที่ ช่วยเพิ่ม oxytocin หลายพฤติกรรมทางสังคมของเราจะกระตุ้นให้คนที่จะเอาชนะการเฝ้าดูธรรมชาติของ พวกเขาเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยง คน เดียวตัดสินใจที่จะไว้วางใจกันเมื่อสร้างความสัมพันธ์ทางเพศหรือธุรกิจ เหล่านี้เป็นครั้งที่ ผลิต oxytocin สมองของเราจะเพิ่มขึ้น





น้ำหอมผูกพัน ฮอร์โมนอ๊อกซิโทซิน (Oxytocin )
--> ความรัก ความอบอุ่น ความไว้ใจ เชื่อใจ ความน่าเชื่อถือ ความผูกผัน และ ความปลอดภัย

ฮอร์โมน อ๊อคซิโทซิน/ออกซิโทซิน (oxytocin)

จัดเป็นนิวโรเปปไตด์ (neuropeptide) หมายถึง สายเปปไทด์ที่สร้างในระบบประสาทซึ่งเกิดจากกรดอะมิโนต่างชนิดกัน 9 โมเลกุลมาต่อกันด้วยพันธะเปปไทด์ (nonapeptide)

Oxytocin

อ๊อกซิโตซิน ถูกสังเคราะห์โดยเซลล์ที่ชื่อ magnocellular neurosecretory cells ที่อยู่ในกลุ่มของเซลล์ประสาทที่ชื่อว่า supraoptic nucleus และ paraventricular nucleus ของสมองส่วนไฮโปธาลามัส นอกจากออกฤทธิ์เป็นสารสื่อประสาทแล้วยังถูกส่งไปยังต่อมพิธูอิตารี เพื่อหลั่งสู่กระแสเลือดจากต่อมพิธูอิตารีไปทำหน้าที่ในอวัยวะที่อยู่ห่างไกลซึ่ง เราจัดว่าเป็นคุณสมบัติของฮอร์โมน (neurohypophyseal hormone) อ๊อกซิโตซินมีบทบาทสำคัญในหลายอวัยวะโดยเฉพาะในสามส่วนหลัก คือ ไฮโปธาลามัส ต่อมพิธูอิตารี (pituitary gland) และต่อมหมวกไต ที่เรียกว่า hypothalamic pituitary adrenal (HPA) axis ซึ่งปัจจุบันนี้มีการศึกษาวิจัยเรื่องประสาทวิทยาของต่อมไร้ท่อมาเป็นเวลา ช้านานถึงบทบาทในด้านความผูกพันทางสังคม (social attachments) และความรัก ทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดกระบวนการสืบพันธุ์ ทำให้รู้สึกว่ามีความปลอดภัย รวมทั้งยังช่วยลดความกังวลและความเครียดได้อีกทางหนึ่ง


การทำงานของอ๊อกซิโตซินแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้

  • ออกฤทธิ์เป็นฮอร์โมนภายนอกสมอง
    • อ๊อกซิโตซินออกฤทธิ์ที่ต่อมน้ำนม mammary glands เพื่อกระตุ้นให้เต้านมแม่หลั่งน้ำนมให้ลูก
    • การบีบรัดตัวของมดลูกในระหว่างการคลอดบุตร
    • เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ โดยพบว่าช่วงระยะจุดสุดยอดของการมีเพศสัมพันธ์ (orgasm) มีปริมาณอ๊อกซิโตซินในเลือดสูงขึ้น และยังเชื่อว่ามีส่วนช่วยลำเลียงอสุจิในระหว่างการหลั่งน้ำเชื้อ (ejaculation) ของผู้ชายอีกด้วย 

    •  ออกฤทธิ์ภายในสมอง
      • อ๊อกซิโตซินที่หลั่งออกมาจากต่อมพิธูอิตารีและเข้าไปยังกระแสเลือดแล้ว ไม่ สามารถที่เข้าสู่สมองได้อีกครั้งเนื่องจากมีโครงสร้างช่วยปิดกั้นไว้ที่ เรียกว่า blood-brain barrier ดังนั้นอ๊อกซิโตซินที่มีผลต่อสมองจึงถูกสร้างและใช้ในสมองโดยไม่ได้หลั่งออก สู่เลือดทางต่อมพิธูอิตารี บริเวณสมองที่ไปออกฤทธิ์มีหลายแห่งซึ่งวัดจากปริมาณอ๊อกซิโตซินตัวรับอ๊อกซิ โตซิน (Oxytocin receptors) ที่ตรวจจับได้บนเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทของสมองส่วน amygdala, ventromedial hypothalamus, septum และ brainstem รวมทั้งยังพบตัวรับอ๊อกซิโตซินของในไขสันหลังอีกด้วย
      • ความตื่นตัวทางเพศ พบว่าถ้าฉีดอ๊อกซิโตซินเขาไปในน้ำเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (cerebrospinal fluid) ของหนูทำให้อวัยวะเพศตั้งตัวขึ้นได้เอง (spontaneous erection)
      • การจับคู่ ในสมองของผู้หญิงหลั่งอ๊อกซิโตซินเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีกิจกรรมทางเพศและทำ ให้เขาปักใจรักเดียวใจเดียวกับคู่ขาคนนั้น และยังพบว่าระดับของอ๊อกซิโตซินในเลือดสูงขึ้นในคนที่กำลังตกหลุมรัก
      • อ๊อกซิโตซินทำให้เกิดพฤติกรรมของแม่ที่มีต่อลูก มีการทดลองในหนูที่เป็นโสดเมื่อได้รับอ๊อกซิโตซินก็มีพฤติกรรมเสมือนว่าตนเป็นแม่
      • ลดความเครียด อาจเนื่องจากลดระดับความดันโลหิตและฮอร์โมนคอร์ติซอล และมีผลลดความเจ็บปวดและคลายกังวล
      • เพิ่มความเชื่อมั่นและลดความหวาดกลัว ซึ่งเชื่อว่าอ๊อกซิโตซินไปออกฤทธิ์ที่สมองส่วน amygdala ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความหวาดกลัว

      มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ปี ค.ศ. 2005 โดยนักวิจัยที่ University of Zurich ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ดำเนินการศึกษา เมื่อให้อ๊อกซิโตซินในรูปแบบสเปรย์ที่ฉีดเข้าจมูก (Nasal spray) ซึ่งมีขายทั่วไปที่ร้านยาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พบว่าทำให้คนเราเกิดการตอบสนองทางสังคมโดยเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกับผู้ อื่นมากขึ้นซึ่งอาจมีผลต่อกระบวนการตัดสินใจในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ พอสมควรครับ ดังนั้นผลงานวิจัยชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การศึกษาในสาขาวิชาประสาท เศรษฐศาสตร์ (neuroeconomics) มีความสำคัญยิ่งขึ้นในปัจจุบัน และนอกจากนี้บทบาทที่ช่วยเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจนี้อาจเป็นประโยชน์ในการ รักษาคนที่มีอาการกลัวผู้คนไม่กล้าเข้าสังคม (social phobia) หรือในอาการออติซึม (autism) เป็นต้น

       อ้างอิง
      3. Eric R. Kandel, Principles of Neural Science, 2000
      4. Kosfeld M., Heinrichs M., Zak P. J., Fischbacher U. & Fehr E. Nature, 435. 673 - 676 (2005).
      5.
      http://www.freewebs.com/neuroscience/

      oxytocin เป็น Hormone Neurohypolysis ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวเวลาเด็กดูดนมซึ่งจะไปกระตุ้น Hypothalamus ให้มีการหลั่งฮอร์โมน prolactin จนเกิดการหลั่งน้ำนม เมื่อได้เห็นลูกน้อยอยู่ในอ้อมกอดฮอร์โมนแห่งความรักตัวเอกคือ "oxytocin" จะถูกหลั่งออกมาทำให้เพิ่มการผลิตน้ำนมยิ่งให้
      ลูกอยู่ในอ้อมกอดแห่งรัก นานขึ้นเท่าไหร่ฮอร์โมนแห่งรักนี้ก็จะกระตุ้นเตือนให้แม่ผลิตน้ำนมเพื่อลูก เพิ่มมากเท่านั้น



      REF: http://www.mccormick.in.th/health_news03.html


      Related Link in this Blog :  
        Liquid Trust "ลิควิด ทรัส" น้ำหอมผูกพัน อ๊อกซิโทซิน (Oxytocin) คืออะไร ?  

      สเปย์มหัศจรรย์ ที่คุณจะพบความรัก เรียกความมั่นใจ และศรัทธาจากผู้อื่นได้โดยง่าย เพียงแค่ฉีดบนร่างกาย ด้วยผลของฮอร์โมนอ๊อกซิโทซิน (oxytocin) ที่ทดลองมาแล้วว่ามีผลกับความรู้สึกไว้ใจ อบอุ่น และเป็นมิตร จึงได้พัฒนามาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม การประชุม การสัมภาษณ์งาน การขาย รวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว คู่ที่ทะเลาะกับแฟนเป็นประจำจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

        วิธีการทำงาน  

      ปลด ปล่อยพลังของ Liquid Trust สร้างสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน !! มันจะเกิดขึ้นเป็น 3 ขึ้นตอนง่ายๆ

      1. ใช้ Liquid Trust ฉีดพรมบนตัวคุณในตอนเช้า ตอนแต่งตัวไปทำงาน, ก่อนเข้าประชุมสำคัญ, ฉีดระหว่างวัน หรือ ในตอนเย็นก่อนออกไปเข้าสังคม ปาร์ตี้

      2 ทุกคนที่พบคุณ จะรู้สึกดีกับคุณในทันที (ที่หลายๆคนเรียกว่า "ถูกชะตา") และแน่นอนไม่มีใครรับรู้หรือตรวจเจอ Pure Human Oxytocin ฮอร์โมนอ๊อกซิโทซิน บริสุทธิ์ใน Liquid Trust ที่คุณใส่

      3. หลังจากนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม คนรอบตัว รอบข้างคุณจะมีความรู้สึกดีกับคุณ คุณจะรู้สึกได้ถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้รับความไว้วางใจ อบอุ่น มีความสุขอย่างที่สุด โดยที่พวกเค้าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราจึงรู้สึกดีกับคุณนัก มันคือ ความมหัศจรรย์ของ Liquid Trust (ลิควิด ทรัส) น้ำหอมผูกพัน ^^


        Liquid Trust "ลิควิด ทรัส" น้ำหอมผูกพัน อ๊อกซิโทซิน (Oxytocin) by Vero Labs  

      นักวิจัยที่ Vero Labs ได้พัฒนาสูตรที่ผสานศักยภาพฮอร์โมน Oxytocin มนุษย์กับบรรยากาศกลิ่นเพิ่มสเปรย์ เรียกว่า Liquid Trust

      Liquid Trust ไม่ได้ผสมน้ำหอม (fragrance free) แต่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ สเปรย์ที่ระยะเวลาออกฤทธิ์ 6-7 ชั่วโมง โดยคุณสามารถใช้เพิ่มเพื่อผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพสูงสุดได้โดยปราศจากผล ข้างเคียงใดๆ
       

      เพียง 1-2 สเปรย์ในตอนเช้าหลังจากอาบน้ำหรือในตอนเย็นก่อนออกไปเที่ยว รับประกันว่าจะทำให้คุณพบกับบรรยากาศที่ดี มีความไว้วางใจ เชื่อมั่นในตัวคุณ ทำให้คุณรู้สึกดีอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งนี้เพิ่งค้นพบถือเป็น นวัตกรรมใหม่ ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้ค้นพบและสัมผัสกับพลังของความไว้ใจ พลังของความผูกพัน Power of Trust !!


        Related Link in this Blog :  

      คุยกันเล่น l มีนาคม 2553

      Post by http://www.PheromoneTHclub.com On 03:01 0 Comments

      เข้าสู่โหมด คุยกันเล่นๆ บันทึกทั่วไป..

      หน้านี้ไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ หรือสินค้าอะไรจริงจังนะ
      เป็นบันทึก พูดคุย ทั่วไปจ้ะ

      ...

      เดือนก่อนเจอของตัวนึงน่าสนใจ นั่งอ่าน หารายละเอียด
      มันใช้ได้จริงไหม? จากอะไร? ผลมันเป็นอย่างไร? ได้ผลจริงไหม?
      หลายๆอย่างที่ลูกค้ามักมีคำถามในใจ เราก็มีคำถามแบบนั้นเหมือนกัน ตอนเลือกน่ะ
      ถ้ายังตอบไม่ได้ทั้งหมด เราก็ยังไม่เอาลงร้าน ขอดู หรือทดลองเองไปก่อน
      อาจมีแบ่งคนรอบข้างทดลองบ้าง เพราะบางอันมันต้องเป็นผู้ชายนี่นะ
      จะใช้เองอยู่ก็จะผิดเพศ เปลืองซะเปล่าๆ ^^

      Liquid Trust คือตัวที่เล็งๆ และทดสอบด้วยตัวเองและคนรอบข้างอยู่
      ตอนนี้ครบเดือนแล้วเห็นผลตอบรับ หรือ Feedback ที่ดี
      ไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อไปเป็นฉากๆ ^^ บอกแล้วว่าเราน่ะขี้สงสัยเหอะ

      ...

      ทั้งอ่านทั้งคุยกับทาง LAB สุดท้ายก็ตกลงใจว่า
      จะเอาลงร้านอาทิตย์นี้ ปลายเดือน มี.ค. นี่แหล่ะจ้า
      ทดสอบมาครบ 1 เดือนพอดิบพอดี
      จากนี้รอให้ลูกค้า้มา Feedback กันบ้างล๊ะ



      ลุยกันเลยกับ ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน อ๊อกซิโตซิน (Oxytocin)
      จัดการกลั่นมารวมในขวดสเปรย์พร้อมใช้งาน พกพาสะดวก
      ใช้มันได้ตลอด ทุกที่ ไม่มี over dose ด้วยแหล่ะ


      " Liquid Trust " by verolabs (new york)
      สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับน้ำหอม เลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะสมกับตัวและสถานการณ์
      • วัตถุประสงค์ในการใช้น้ำหอม

        ควรใส่ใจซักนิดว่ากลิ่นใดสำหรับโอกาสใด เช่น ในวันทำงาน วันหยุด วันพักผ่อน หรือไปเที่ยวกลางคืน ใส่ไปผับบาร์ ล้่วนแต่มีกลิ่นที่เหมาะสมแตกต่างกัน ถ้าไปทำงานจะเหมาะกับกลิ่นหอมสดชื่น เช่น มะนาว เมนทอล หรือหอมเย็นเบาๆอย่างกลิ่นแนวใบไม้ใบหญ้าต่างๆ ขณะที่กลิ่นหอมแบบดอกไม้นานาพันธ์จะเหมาะกับกลางคืน ใส่ไปดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติกมากกว่า
      • ทดลองกลิ่นแบบมืออาชีพ

        ควรเลือกกลิ่นน้ำหอมด้วยการฉีดลงบนแผ่นกระดาษสำหรับทดลองกลิ่น แล้วหยิบออกมาซัก 3-4 กลิ่นที่ถูกใจ จากนั้นเดินออกมาดมข้างนอกให้ห่างจากแผนกน้ำหอมจะได้ทราบกลิ่นที่แท้จริงของมัน หรือนำตัวอย่างนั้นกลับบ้านแล้วดมอีกครั้ง เพื่อดูความแตกต่าง **อย่าลืมที่จะดมเมล็ดกาแฟถุงเล็กๆเพื่อพักกลิ่นแต่ละกลิ่นก่อนทดลองกลิ่นต่อไป และไม่ควรลองน้ำหอมหลายกลิ่นในที่เดียว

      • ลองแตะน้ำหอมแต่ละกลิ่นตามจุดต่างๆ ของร่างกายอย่างกลิ่นหนึ่งบริเวณข้อมือ อีกกลิ่นที่ท้องแขนหรือข้อพับหลีกเลี่ยงการลองกลิ่นน้ำหอมในบริเวณที่มี เครื่องประดับเนื่องจากโลหะของเครื่องประดับจะดูดซับกลิ่นเหงื่อเอาไว้ทำให้กลิ่นบิดเบือนได้
      • น้ำหอมแบบที่ใช้แต้ม ควรใช้คอตต้อนบัดแตะน้ำหอมจาก ปากขวดแทนนิ้วมือ แล้วไปแต้มตามบริเวณต่าง ๆ กลิ่นน้ำหอมในขวดจะได้ไม่เปลี่ยน เพระไม่เกิดปฏิกิริยากับความร้อนจากนิ้วมือเรา

      • การลองน้ำหอมที่ดีควรรอ สัก 10 นาทีก่อนเพื่อให้เวลาในการปรับกลิ่นขณะน้ำหอมผสมกับกลิ่นกายธรรมชาติด้วย ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่ากลิ่นไหนที่ใช่หรือไม่ใช่เนื่องจากกลิ่นที่เราได้จาก ขวดกับผิวบนข้อมือนั้นจะแตกต่างกัน

      ด้วยเหตุนี้เอง อย่าได้ซื้อน้ำหอมที่จำกลิ่นมาจากคนอื่น คนนั้นใช้แล้วหอมดี คนนี้ใช้แล้วเท่ คนนั้นใช้แล้ว sexy เพราะอุณหภูมิและเหงื่อของคนเราไม่เหมือนกัน เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำหอมแล้วอาจจะไม่หอมเหมือนที่คนนั้นฉีดก็ได้

      • แนะนำว่าให้ซื้อขวดเล็กก่อน หากใช้หมดแล้วค่อยซื้อใหม่ เพระเก็บไว้นานหรือเก็บไว้ไม่ดีกลิ่นจะเปลี่ยนได้ และถ้าอยากอัพเดทกลิ่นใหม่ ๆ ให้แวะเคาน์เตอร์น้ำหอมตอนสายๆ ฉีดบาง ๆ ที่ข้อมือด้านในทิ้งไว้ทั้งวันจะได้รู้ว่ากลิ่นน้ำหอมเข้ากับอุณหภูมิและเหงื่อของเราหรือเปล่า
      • ถ้าเป็นไปได้ ลองดมดูไล่จากกลิ่นอ่อนๆ จนกลิ่นแรงขึ้นและควรลองทีละกลิ่น และอย่าให้เกิน 3 กลิ่น เพราะหลังจากนั้นจมูกของคุณจะเบลอ จนแยกแยะความแตกต่างของกลิ่นไม่ออก
      • จมูกจะทำงานได้มี ไม่มีเพี้ยน ถ้างดอาหารรสจัดและงดสูบบุหรี่ เพื่อการทดสอบจมูกให้มีคุณภาพไว้ใจได้ ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในตอนเช้าวันไหนก็ได้ เพราะในเวลาตอนเช้านั้นคุณยังสดใสฉะนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่จมูกของคุณทำงาน ได้ดีที่สุด  

      น้ำหอม...เลือกอย่างไร?

      Post by http://www.PheromoneTHclub.com On 10:07 1 Comments
           น้ำหอม มีองค์ประกอบหลากหลาย ไม่ควรทดสอบกลิ่นเกิน 3 กลิ่น หากมากกว่าจมูกจะไม่สามารถแยกกลิ่นได้อย่างชัดเจน ถ้าเราลองกลิ่นหลายๆ กลิ่นพร้อมกัน ประสาทรับรู้จะนำกลิ่นเหล่านั้นมามิกซ์กัน ทำให้กลิ่นที่เหลือเพี้ยนไป ถ้าอยากจะลองหลายๆ กลิ่นในวันเดียว แนะนำว่าลองเพียง 3 กลิ่น แล้วทิ้งช่วงเวลาไว้สักพักแล้วค่อยกลับมาลองใหม่อีกครั้ง หรือบางร้านอาจจะมีเมล็ดกาแฟไว้ให้ดม เพื่อเปลี่ยนการรับกลิ่นไปอีกทางหนึ่ง
       

           การเลือกซื้อน้ำหอมไม่ควรเลือก เพราะชอบกลิ่นที่คนอื่นใส่ เนื่องจากน้ำหอมจะโดดเด่นในการทำปฏิกิริยาทางเคมีกับร่างกายของผู้ใส่ ซึ่งทุกคนจะแตกต่างกันด้วยฮอร์โมนและอาการการกิน ทำให้กลิ่นกายที่ออกมาผสมกับกลิ่นน้ำหอมแตกต่างกันออกไป การลองน้ำหอมจึงควรลองกับผิวกายดีที่สุด เพราะกลิ่นที่ฉีดลงบนกระดาษน้ำหอมกับผิวกาย แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และสำคัญที่สุดควรลองด้วยตัวเอง

           คนที่รับประทานอาหารรสจัด เครื่องเทศมากๆ การตอบสนองของกลิ่นน้ำหอมจะเข้มข้นมาก แต่ในขณะเดียวกันคนที่รับประทานอาหารรสจืด กลิ่นเดียวกันการทำปฏิกิริยาของน้ำหอมจะไม่เข้มเท่ากันคนที่รับประทาน เครื่องเทศบ่อยๆ หรือคนที่มีผิวกายมัน น้ำหอมก็จะติดทนทานมากกว่า และกลิ่นของน้ำหอมก็จะเข้ม เพราะน้ำมันในร่างกายเราจะทำปฏิกิริยากับน้ำหอมได้อย่างชัดเจน ทำให้กลิ่นอยู่นาน แต่ถ้าเป็นคนผิวแห้งน้ำหอมอาจจะติดไม่นานเท่าไร ทางแก้ที่ดีคือ เลือกเจลอาบน้ำหรือโลชั่นที่มีกลิ่นโทนเดียวกัน หรือแก้ด้วยการเติมน้ำหอมตลอดวัน


       วิธีการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับอารมณ์แต่ละวัน 
       
           รู้หรือไม่ว่า กลิ่นของน้ำหอม สามารถเปลี่ยนตามอารมณ์ของผู้ใส่ได้ด้วยนะ "เวลารู้สึกเครียดมากๆ อยากจะ relex ผ่อนคลาย แนะนำให้เลือกใช้ น้ำหอมกลิ่นวานิลลา ลาเวนเดอร์ หรือน้ำหอมที่มีส่วนผสมของกลิ่นเหล่านี้ จะช่วยทำให้ระบบประสาทของคนใส่รู้สึกผ่อนคลายทำให้สบายขึ้น แต่ถ้าเกิดวันไหนตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเฉื่อยๆเนื่อยๆ แล้วอยากจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาละก็ น้ำหอมที่ควรเลือกใช้วันนั้นควรจะเป็น น้ำหอมที่มีส่วนผสมของกลุ่มผลไม้ เพราะกลิ่นในกลุ่มนี้จะช่วยเสริมอารมณ์ของผู้ใส่ให้รู้สึกสดใสสดชื่น ปรับอารมณ์ของผู้ใส่ให้รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา คนที่อยู่ใกล้ก็จะไม่รู้สึกเซ็งไปกับเราด้วย เพราะการใส่น้ำหอมนอกจากจะเพื่อตัวเองแล้ว ยังสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่ผู้ที่อยู่รอบข้างด้วยนะจ้ะ

           ถ้าเราอยากได้ความรู้สึกที่เรียบ หรู ลุ่มลึก เวลาไปงานพิเศษหรือไปงานกลางคืนเพื่อให้คนรู้สึกถึงความเซ็กซี่ น้ำหอมที่ใส่ควรจะเป็นโทนวอร์มนิดนึง พวกน้ำหอมที่มีส่วนผสมของเปลือกไม้ อำพัน หรือกลิ่นมะลิ ผู้ที่ได้กลิ่นจะรู้สึกได้ถึงความเซ็กซี่ที่แฝงไปด้วยความพิเศษในตัว 

       SEXY ได้ด้วยน้ำหอม  

           สิ่งที่จะเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับสาวๆ ที่นอกเหนือจากการแต่งตัวแล้ว "น้ำหอม" ยังกลายเป็นเครื่องประดับอีกชิ้น ที่พราวไปด้วยเสน่ห์แห่งการเย้ายวน พร้อมปรับอารมณ์ของผู้ที่อยู่ ใกล้ชิด ให้เคลิบเคลิ้มตามผู้ใส่ไปด้วยอย่างง่ายดาย และด้วยศาสตร์ของกลิ่นบำบัดทำให้ผู้คิดค้นกลิ่นน้ำหอมชนิดต่างๆ นำมาเป็นหลักในการผสมผสานกลิ่น ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นความรู้สึกของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

      ชีวิตเรา เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน เช้า กลางวัน เย็น เราก็ได้ดมเอากลิ่นต่างๆเข้าไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะทุกนาทีเราต้องหายใจเข้า-ออกเป็นประจำนี่นะ (ไม่งั้นก็ตายซิค๊า...) และการหายใจเข้าออกนี้เองที่จะนำเอาโมเลกุลของเคมีซึ่งมีปฏิกิริยาต่อตัวรับกลิ่นของเรา เราจะรู้สึกถึงกลิ่นหอม, กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นฉุนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในการที่เราได้รับรู้ถึงกลิ่นที่ว่า ทำให้เกิดคำถามต่างๆว่า เราดมได้อย่างไร ทำไมกลิ่นและน้ำหอมจึงมีผลต่อเรา? และอีกหลายคำถามที่คนเราสนใจ จึงเกิดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์รวมทั้งวิจัยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

       เราได้รับกลิ่นได้อย่างไร ? 

                เมื่อเราสูดอากาศ อากาศจะผ่านเข้ารูจมูก และเข้าไปยังพื้นที่ที่มีขนาดเท่าแสตมป์ซึ่งบรรจุไปด้วย เซลล์ตัวรับเป็นล้านๆ ตัว ซึ่งเรียกว่า Olfactory epithelium ถ้าอากาศที่เราสูดเข้าไปมีโมเลกุล ของน้ำหอมอยู่ด้วย โมเลกุลเหล่านั้นจะไปเกาะอยู่กับของเหลวข้นๆรอบ Epithelium ใยของตัวเซลล์รับ (Receptor) จะยืนออกไปจับกับโมเลกุลน้ำหอมที่ว่าผ่านจากตอนล่างของเซลล์ เมื่อใยที่ว่าไปสัมผัสกับโมเลกุลน้ำหอมแล้ว ก็จะเกิดการส่งรหัสและคลื่นไปยังระบบประสาทของเรา และจะไปสิ้นสุดที่สมองต่างๆของเราโดยรวมถึง สมองส่วนกลางและเยื่อหุ้มสมองด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกล้วย จนถึงกลิ่นดอกกุหลาบ แต่ละกลิ่นจะทำให้เกิดการส่งรหัสหรือการผ่านคลื่นไปตามแบบของกลิ่นนั้นๆ

                ดังนั้นคนเราเองแต่ละคนก็จะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน น้ำหอมบางกลิ่นอาจจะทำให้คนคนหนึ่งสงบ แต่อาจจะให้ความรู้สึกอีกคนหนึ่งที่ต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการศึกษาอย่างละเอียดมากขึ้น

       น้ำหอมมีผลกับเราอย่างไร ? 

                น้ำหอมหรือกลิ่นมีผลต่อคนเราโดยตรง โดยอาจจะลดความเครียด จนถึงการเพิ่มความรู้สึก (Mood) และยังพบว่าน้ำหอมจะทำให้การหลับของเรามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และอาจจะปลุกความทรงจำที่เราอาจจะลืมเลื่อนไปได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

      Stree Reduction (การลดความเครียด)
                การวิจัยพบว่าการใช้น้ำหอมในคนเราสามารถช่วยลดความเครียดได้ นักค้นคว้าที่ Sloan-Kettering Cancer ที่ New York ได้พบว่าน้ำหอมลดอาการเครียดของคนไข้ที่ได้รับอาการจากMegnatic resonance imaging (MRI) จากการทดลองให้คนไข้ได้รับกลิ่นน้ำหอมทำให้ลดอาการที่ว่าไปได้ถึง 63% Quality of Sleep (การหลับอย่างมีสุข)
                การวิจัยโดยDr. Peter Badia จาก Bowling Green State University, Department of Psychology ได้ผลการวิจัยออกมาเป็น 2 หัวข้อใหญ่เพื่อศึกษาว่ากลิ่นมีผลต่อการนอนของคนเราหรือไม่ การศึกษาพบว่าพฤติกรรมและจิตใจเราขณะหลับยังสามารถรับรู้ถึงกลิ่นต่างๆได้ เป็นอย่างดี แล้วในการทดสอบต่อโดยการให้ผู้ทดลองได้รับกลิ่น มะลิ, เปเปอร์มินท์,และไม่ได้รับกลิ่น ผลปรากฏว่าว่า กลิ่นมะลิจะทำให้ผู้ทดสอบตื่นขึ้นมาอย่างสบายตัว เปเปอร์มินท์จะทำให้รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาอย่างผวา ซึ่งจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการได้กลิ่นระหว่างการนอนหลับมีต่อการหลับได้ เป็นอย่างดี

      Memory (ความทรงจำ)
                 เป็นการตอบสนองที่น่าทึ้งที่สุดที่ได้จากน้ำหอม ทุกคนจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรู้สึก ไม่ว่าจะดีหรือร้าย หลังจากได้กลิ่นน้ำหอมต่างๆกัน เช่นกลิ่นของรถคันใหม่เอี่ยมที่คุณพึ่งถอยออกมาจากห้าง ซึ่งประสบการณ์เหล่าเกิดขึ้นจากการได้กลิ่นเพียงครั้งเดียว
                 Dr. Trygg Engen, professor of psychology at Brown University, พบว่าความสามารถใน การจำกลิ่นของคนเรามีมากกว่าความสามารถในการจำภาพที่เราเห็น คนเราจะสามารถจำ กลิ่นได้แม่นยำเกือบ 65% ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เทียบกับการจำภาพแค่ 50% ในเวลาแค่ 4 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากส่วนประสาทในสมอง “memory bank” ซึ่งการรับกลิ่นของคนเราจะถูกควบคุมโดย Limbic System ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมความรู้สึก (Emotion)และการตอบสนองทางเพศ, ศิลปะและอื่นๆ ซึ่ง Limbic System จะเก็บรวบรวมความรู้สึกต่างๆที่เรามีประสบการณ์ไว้
                น้ำหอมทำให้เรารู้สึก Sexy, กระชับกระเฉง,แข็งแรง, สะอาด, มีความสุข, อ่อนหวาน, สร้างสรรค์, และ ความรู้สึกอื่นๆ อีกมากมาย คนเราจะตอบสนองน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ไปในแบบที่ต่างกัน ความเป็นไปได้ที่น้ำหอมจะมีผลต่อการตอบสนองนั้นไร้ขีดจำกัด กลิ่นต่างๆ ที่จะสัมผัสได้หรือไม่ได้ได้เข้ามา อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา 


      คนเป็นล้านอาจจะต้องตายไปถ้าไม่สามารถได้กลิ่นของควันไฟเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
      เราใช้ความรู้สึกในการดมเพื่อแยกอาหารที่เสีย

      มนุษย์เรา, ดังบรรพบุรุษของเรา สามารถรับรู้ถึงกลิ่นของพวกเราเอง
      และกลิ่นที่เกิดตามธรรมชาติเช่น กลิ่นของต้นไม้,ดอกไม้หรืออาหาร. 
      ซึ่งเป็นกลิ่นที่ถูกสร้างจากธรรมชาติและถูกออกแบบ
      ออกมาเป็นกลิ่นต่างๆ ที่เราสามารถพบในน้ำหอมที่มีขายทั่วไป

        About Me

        รูปภาพของฉัน
        กรุงเทพ, Thailand
        BLOG เกี่ยวกับ น้ำหอม น้ำหอมแท้ น้ำหอมแบรนด์เนม น้ำหอมฟีโรโมน ฟีโีรโมน กลิ่นเรียกรัก เพิ่มรัก สร้างเสน่ห์ ปลุกอารมณ์ หญิง ชาย ทอม ดี เลสเบี้ยน เกย์ กระเทย เห็นผลแน่นอน ของแท้ 100% รวมบทความวิจัยประสาืทสัมผัส รับรู้กลิ่น รีวิว pheromone

        *** support by http://www.pheromoneTH.com ***

        PheromoneTH's Fan Box

        oxytocin (7) น้ำหอมผูกพัน (6) Liquid Trust (5) น้ำหอมฟีโรโมน (4) น้ำหอมแท้ (4) อ๊อกซิโทซิน (4) sex (3) ฟีโรโมน (3) วิจัย (3) อ๊อกซิโตซิน (3) love (2) กลิ่น (2) กลิ่นน้ำหอม (2) ทำให้รัก (2) น้ำหอม (2) บทความ (2) วิทยาศาสตร์ (2) วิธีเลือกน้ำหอม (2) diary (1) faq (1) perfume (1) pheromone (1) review (1) testosterone (1) tip (1) top rank (1) unisex (1) verolabs (1) กลิ่นตัว (1) กลิ่นเปลี่ยน (1) ความรัก (1) คุยกันเล่น (1) ดึงดูดชาย (1) ตำรา (1) ถามตอบ (1) นิยม (1) น้ำหอมผู้ชาย (1) น้ำหอมผู้หญิง (1) น้ำหอมแห่งความผูกพัน (1) ประสาทสัมผัส (1) ประโยชน์ (1) ผู้หญิง (1) มัดใจชาย (1) มารยาหญิง (1) รวมคำถาม (1) รักคืออะไร (1) รักแรกพบ (1) ราศี (1) รีวิว (1) ร้านขายน้ำหอมฟีโรโมน (1) ลิควิดทรัส (1) สินค้าใหม่ (1) หื่น (1) อารมณ์ (1) อารมณ์ทางเพศ (1) ฮอร์โมน (1) เหตุผล (1) เอาใจสามี (1)