น้ำหอมแท้-ฟีโรโมน

Posted by pheromoneTH.com

BLOG เกี่ยวกับ น้ำหอม น้ำหอมแท้ น้ำหอมแบรนด์เนม น้ำหอมฟีโรโมน ฟีโีรโมน กลิ่นเรียกรัก เพิ่มรัก สร้างเสน่ห์ ปลุกอารมณ์ หญิง ชาย ทอม ดี เลสเบี้ยน เกย์ กระเทย เห็นผลแน่นอน ของแท้ 100% รวมบทความวิจัยประสาืทสัมผัส รับรู้กลิ่น รีวิว pheromone

OUR SHOP : PheromoneTH.com

ร้านขายฟีโรโมน PheromoneTH.com

Posted by น้ำหอมแท้-ฟีโรโมน On 2010-03-15

ขายน้ำหอมฟีโรโมน ของแท้ 100% นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย มีใบรับรองเป็นตัวแทนจำหน่าย

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

POST-TITLE-HERE

Posted by Author On Month - Day - Year

POST-SUMMARY-HERE

ผู้ชายมีอารมณ์มากที่สุดเมื่อผู้หญิงพร้อม!! คุณรู้ไหมมันคือช่วงไหน?

ตามธรรมชาติ ผู้หญิงจะดึงดูดเพศตรงข้าม หรือดึงดูดชายได้มากที่สุด ช่วงไข่ตก ! เพราะอะไร ก็เพราะเป็นธรรมชาติที่มนุษย์ต้องการสืบพันธ์ มันก็ต้องมีการล่อ ดึงดูดกันหน่อย กลิ่นจะแรงสุดๆเมื่อเธอพร้อมมีลูก นั่นคือช่วงเวลาที่ไข่ตกนั่นเอง สา่วๆลองสังเกตุดูได้ ช่วงไข่ตกจะดูสวยใสเป็นพิเศษ ไม่เหมือนช่วงก่อนเมนส์จะมา (นั่นคือเลยช่วงไข่ตกไปล๊ะไข่ฝ่อจะหลุดมาเป็นเมนส์แล้ว) ช่้วงเมนส์นี่ควรเลี่ยงเลย จะเหวี่ยง ไม่น่ารักนี่ พูดจริงๆนะเนี่ย

จากการวิจัยต่างๆนานา... พิสูจน์ได้ว่า กลิ่นหรือฟีโรโมนตามธรรมชาติสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้
รวมถึงการวิจัยชิ้นนี้ที่ pheromoneTH.com เอามาฝากกันด้วย ^^

-----

"กลิ่นตัวสาว เพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายในเพศชาย ทำให้เกิดอารมณ์ได้"

ภาพข่าวจาก www.webmd.com
 
กลิ่นจากผู้หญิงที่สร้างตามธรรมชาติอาจเพียงพอแล้วสำหรับการดึงดูดเพศชาย เพราะจากการทดลอง ของ Saul L. Miller and Jon K. Maner of Florida State University in Psychological Science เค้าได้ให้ผู้ชายดมกลิ่นจากเสื้อของผู้หญิงที่ใส่ในช่วงรอบเดือนที่แตกต่างกันไป มีทั้งผู้หญิงที่ใส่เสื้อในช่วงที่ไข่ตก ช่วงที่มีเมนส์หรือมีรอบเดือน ฯลฯ โดยทีมวิจัยมีการวัดระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ testosterone ไว้ทั้งก่อนและหลังดมกลิ่นเสื้อของผู้หญิง ผลที่ออกมาคือ ระดับฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้นเมื่อดมกลิ่นเสื้อของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงไข่ตก (พร้อมจะมีลูกได้ตามธรรมชาตินั่นเอง) นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ของพวกเขาด้วยที่พบว่า "ผู้ชายจะรับรู้กลิ่นผู้หญิงได้และรู้สึกสบายที่สุดเวลาอยู่ในรอบเวลาการตกไข่" 

** ในการทดลอง มีระยะใกล้และไกลการตกไข่ ผู้ชายเลือกใกล้ระยะการตกไข่ทั้งหมด !! 

นักวิจัยกล่าวว่า ผลการทดลองยืนยันได้ว่า พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของมนุษย์ อาจได้รับผลบางอย่างจากประสาทสัมผัสแบบเดียวกับที่พบในสัตว์ประเภทหนู

----- 


จบผลการวิจัย จริงอยู่ที่ธรรมชาติสร้างมาให้แล้ว
แต่สำหรับบางคนเกิดได้มาขาดๆเกินๆ มากไปบ้าง น้อยไปบ้าง
"กลิ่นสเน่ห์" ยังไม่ลงตัว แบบนี้ปรึกษา PheromoneTH.com ได้นะคะ ^^
ดูที่ shop ได้เลยมีหลายแบบหลายกลิ่นมากมาย

ที่สำคัญของการเลือกใช้ น้ำหอมฟีโรโมน คือ หาตัวเองให้เจอ
ว่าเรามีอะไรอยู่ เป็นแบบไหน และขาดอะไร เติมในสิ่งที่ขาดและ้ต้องการ
ง่ายๆแค่นี้เองถ้าอ่านแล้วยัง งง มึนตึ๊บ มา... เดี๋ยวช่วยเลือก
ส่งเมลมาถามได้เลย PheromoneTH@gmail.com

คราวหน้าจะหาเรื่องมาฝากคุณผู้ชาย ดึงดูดสาวๆกันบ้าง
รู้สึกว่าจะมีแต่เรื่องสาวๆึดึงดูดหนุ่มๆเน๊อะ
ขออภัย แบบว่าข้อมูลมัุนเยอะ แม่ค้าเป็นผู้หญิงนี่นะ อิอิ
แต่เรื่องผู้ชาย เดี๋ยวหาให้ ส่วนเรื่องเทสนี่ปล่อยเป็นหน้าที่น้องชายเลย
คงเทสด้วยตัวเองไม่ได้อะนะ - -"



แล้วจะมาอัพเดทใหม่จ้า
-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------



SOURCE :
http://fooyoh.com/iamchiq_living_sexualrelationship/4760890
http://men.webmd.com/news/20100115/womens-scent-triggers-hormone-surge-in-men
พวกผู้ชายนี่ก็แปลก พอได้ยินคำว่ามารยาหญิงเท่านั้นแหละ ทำท่ารังเกียจยังกับเจอเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่หารู้ไม่ว่า เจอทีไรเป็นต้องเข่าอ่อนทู้ก...........ที แต่อย่าว่า แต่ผู้ชายเลย ผู้หญิงบางคนบอกว่า จะให้ใช้มารยารึ ฉันยอมกินข้าวมันไก่ใส่คากิให้ตัวอ้วนกลมเสียยังดีกว่า

แหม... เกิดมาในยุคหญิงห้าวกร้าวแกร่ง เก่งสารพัดจะเรียกว่าโชคดีก็ใช่ที่ ผู้หญิงเราพึ่งพาตัวเองได้ แต่ก็อาจทำให้ความอ่อนหวานแบบผู้หญิงกร่อยลงไป ถึงเวลายืมภูมิปัญญาดั้งเดิมของเรามาศึกษาดูบ้างแล้วล่ะ ซึ่งหลังจากปัดฝุ่นเปิดตำราแล้ว ก็ได้มาตั้ง 7 + 1 ข้อทีเดียว เริ่มเลยแล้วกัน





1. อ่อนแอ


     ถึงจะเป็นหญิงบึกบึนมาตั้งแต่เกิด แต่จะน่าเอ็นดูขึ้นมาก ถ้าเหลือพื้นที่ไว้ให้ฝ่ายชายได้แสดงความแข็งแกร่งบ้าง เพราะฉะนั้นพลังระดับยกถังแก๊สเข้าครัว หรือย้ายโอ่งมังกรน่ะ เก็บไว้ทำตอนที่เขาไม่อยู่ เวลาที่สามีอยู่บ้านก็ขอความช่วยเหลือด้านพละกำลังจากสามีดีกว่า เพื่อเขาจะได้เป็นผู้ที่แมนสุด ๆ ในบ้านนั่นเอง

  2. เอิ๊กอ๊าก

      ผู้หญิงอารมณ์ดีร่าเริง ใคร ๆ ก็อยากอยู่ด้วย เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทีนี้พอเจอภาระรับผิดชอบอันแสนจะหนักอึ้ง ต่อมร่าเริงของเราก็มักจะฝ่อ ถ้าอยากเป็นสาวสดใสคนเดิม ก็ต้องรู้จักหาเวลาพักเพื่อชาร์จแบตใหม่ เลิกกระเตงปัญหาติดตัวตลอดเวลา ควรลืม ๆ ไปบ้าง หัดมีมุกตลกคิกคัก แล้วพยายามมองเรื่องดี ๆ ชี้ชวนให้ฝ่ายชายชมบ้าง อย่างนี้ถึงจะค่อยน่าอยู่ใกล้ ๆ หน่อย

  3. ออดอ้อนออเซาะ

      เมื่อขอกันดี ๆ ไม่รู้เรื่อง จะงอนไป 3 วัน แปลงร่างเป็นนางยักษ์นางมารส่งเสียงแหวแว้ดบ่อย ๆ ก็ใช่ที่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลตามต้องการแล้ว ยังเสียทั้งอารมณ์และภาพพจน์อีกต่างหาก ถ้าบางเรื่องเราปรับมาใช้โหมดออดอ้อนบ้าง โอกาสสำเร็จย่อมมากกว่า บรรยากาศในบ้านก็จะได้คลายความตึงเครียดลงไป เพราะได้ความหวานเข้ามาแทนที่

  4. Oh! My Hero


      ทุกคนอยากเป็นคนเก่ง คนดี มีคนชม ถ้ารู้อยู่เต็มอกว่า "เขา" มีความดี ความเก่ง หรือประกอบวีรกรรมใดมาบ้าง อย่าเก็บไว้ใจในคนเดียว ชื่นชมให้พ่อตาแม่ยาย เพื่อนพ้องน้องพี่รับรู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง กับตัวเขาเองก็ชมตรง ๆ บ้าง แต่อย่าให้มากจนทำให้เขารู้สึกเลี่ยนแทนที่จะปลื้มก็แล้วกัน

  5. เอาอกเอาใจ

     อยู่กันไปนาน ๆ เรามักจะเผลอคิดว่าไม่ต้องเอาใจกันหรอก ผิดซะแล้ว ผู้หญิงเรายังต้องทำอยู่นะคะ เพื่อสร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้เขา เอาใจเขาในวันธรรมดา วันละนิดละหน่อย ทำเรื่องง่าย ๆ แต่ทำบ่อย ๆ ให้เขารู้ว่าเราใส่ใจ โดยเฉพาะในยามที่เขามีปัญหาเคร่งเครียด หรือเจ็บป่วย ถ้าหมั่นดูแลเอาใจไม่ทอดทิ้ง เขาจะซาบซึ้งใจเป็นพิเศษ

  6. อิงแอบ

     ภาษากาย เช่น การอิงแอบ การโอบกอด จับมือเขาไว้บ้าง เป็นการแสดงออกถึงความรักได้ไม่แพ้คำพูดหวาน ๆ เพราะผู้หญิงเรามีลูกแล้วใช่ว่าจะลืมโลกลืมสามี อย่างไร ผู้ชายก็ยังต้องการเป็นที่รักสำหรับเราอยู่ เพราะฉะนั้นต้องหาวิธีบอกให้เขารู้

  7. อ่อนโยนอบอุ่น

     ควรทราบไว้นิดนึงว่า ผู้ชายไม่ว่าอายุเท่าไร ก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวตลอด เพราะฉะนั้นจะงอแงและป่วนจัดในบางเวลา เช่น เวลาไม่ได้ดั่งใจ ผิดหวัง ผิดพลาด โดนบ่น หรือถูกต่อว่าต่อขาน ต้องสยบอาการงอแงด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่น คอยเป็นกำลังใจ และกองเชียร์ ไม่ทอดทิ้งเขาในยามที่เขาต้องการใครสักคน คำปรึกษาอาจไม่จำเป็นด้วยซ้ำ บางครั้งเขาก็อยากคิดได้ด้วยตัวเอง

  +1. เอ๊กอี้


      คือว่าข้อนี้เป็นข้อที่เพิ่มมาอีก 1 ข้อ จึงขอไปแบบน้ำขุ่น ๆ ว่า หมายถึง "เซ็กซี่" นั่นเอง ผู้หญิงเราครั้นจะให้หัวฟูดูกระเซิงก็เกรงว่าจะขาดความรื่นรมย์ทางสายตาว่า ไหมคะ ต้องมีสวย และบางครั้งมีเซ็กซี่บ้างเพื่อสร้างแรงดึงดูดระหว่างกัน ไม่ให้เขาหลุดจากวงโคจรไปสู่ระบบจักรวาลอื่นนั่นเอง


ได้เคล็ดวิชาไปตั้ง 7 + 1 ข้อแล้ว อย่างน้อยน่าจะมีโอกาสใช้ให้เกิดประโยชน์สักข้อสองข้อแหละน่า


ขอบคุณที่มาบทความจาก  ModernMom
เชื่อว่าช่วงเวลา รักแรกเจอ หรือ Love at first sight อาจเคยเกิดขึ้นกับคุณมาแล้วในชีวิต และ บางคนก็มักพูดติดตลกว่า รักแรกเจอของตนเอง นั้นเกิดขึ้นแทบทุกวัน เคยสงสัยกันไหมว่า รัก ในแรกพบประสบพักตร์นี้ เกิดด้วยเหตุผลกลใด จากความเห็นที่พิจารณาด้วยความรู้สึก คุณอาจอธิบายได้ว่ามันเป็นเรื่องของหัวใจ ใช้กระบวนการใดก็พิสูจน์ได้ แต่ถ้าจะมองให้มันเป็นเรื่องราวที่มีเหตุมีผลแบบวิทยาศาสตร์ล่ะ เราจะมองอย่างไร

รู้หรือไม่ว่า วิทยาศาสตร์เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนตกหลุมพรางความรักตั้งแต่ แรกดมเลย คือ กลิ่น และคุณอาจเป็นคนหนึ่งในนั้นที่เผลอตกหลุมรักใครสักคนเพียงเพราะ
“กลิ่น”


 
ความลับของกลิ่นความรัก

       นานแล้วที่มนุษย์ใช้เครื่องหอมเพื่อการตกแต่งกลิ่นหายให้น่าเย้ายวน ใจ และเพื่อดึงดูดคู่รักของตน รวมถึงการเข้าสังคม โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทดลองใด ๆ ว่ามีเพียงความเชื่อว่ากลิ่นหอมจะกระตุ้นความสนใจได้ แต่แล้วยุคหนึ่งมีค้นพบว่า สัตว์ได้ใช้ประโยคของกลิ่น ในการดำรงเผ่าพันธุ์โดยกลิ่น ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นได้ซุกซ่อนสารเคมีที่เรียกว่า ฟีโรโมน (Pheromone)

       โดยสารเคมีชนิดนี้ซุกซ่อนอยู่จากการค้นพบใน การคัดเลือกโดยธรรมชาติของชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) กลิ่นรักนี้เองที่ทำให้สัตว์เกิดความเสน่หาและต้องการสืบพันธุ์ และเรื่องราวของกลิ่นที่สัตว์ใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์ หรือพูดได้ว่ามันใช้ในการสื่อสารที่มี การใช้ประโยชน์จากกลิ่นนี้ อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ หนึ่ง การใช้เพื่อป้องกันตัว พวกแมลงที่มีกลิ่นเหม็นต่าง ๆ สอง ใช้เพื่อสื่อสาร และสาม ใช่เพื่อการดึงดูด สร้างเสน่ห์ อย่างที่พบได้ในสัตว์ต่าง ๆ อาทิ กวางมูส ที่มีต่อมน้ำหอมซึ่งจะคอยปล่อยกลิ่น และชะมดเช็ด


กวางมูส หนึ่งสายพันธุ์ที่มีฟีโรโมนที่โด่งดัง

       แต่ กับมนุษย์และสัตว์ตระกูลไพรเพตอย่าง ลิง กลับถูกปฏิเสธเสมอมาว่า มนุษย์ไม่มีสารเคมีอย่างสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ดึงดูดด้วยกลิ่น เพราะธรรมดาแล้วมนุษย์น่าจะถนัดเรื่องกลิ่นตัวที่เหม็นมากกว่า และหากมนุษย์จะจัดเข้ากับประเภทของกลิ่น ก็น่าใช้กลิ่นเพื่อการสื่อสารเสียมากกว่า
       แต่แล้วการวิจัยในปัจจุบันพบว่า มนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์อื่น ๆ ที่ฟีโรโมนมีอิทธิพลต่อมนุษย์ด้วย เพราะ มีการศึกษาแล้วพบว่า ในจมูกทั้ง 2 ข้างของมนุษย์ที่สูดอากาศดมกลิ่นนี้จะสามารถรับสารฟีโรโมนได้ด้วย
       พอล บราคา (Paul Broca) แพทย์ชาวฝรั่งเศสได้ทำการศึกษาเรื่องทักษะการดมกลิ่น โดยเปรียบเทียบระหว่าง ลิง ลิงเอป์ (Ape) และคน พบว่าทักษะการดมกลิ่นของทั้ง 3 ชนิด มีความเชื่อมโยง พัฒนามาจากสัตว์ สี่เท้า นี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่ามนุษย์ผลิตและรับสาร ฟีโรโมนได้



ฟีโรโมนกับความรัก

       ฟีโรโมน ซึ่งในบางครั้งก็มีผู้เรียกว่าสารเคมี แห่งความรักและความใคร่นี้ เกิดขึ้นจากหลัก ๆ จาก 3 ต่อมผิวหนังในร่างกาย ได้แก่

       - ต่อมผลิตไขมัน (Sebaceous glands) พบมากบริเวณใบหน้า หน้าผาก และปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย หนังตา หู จมูก เป็นต้น

       - ต่อมเหงื่อ (Eccrine sweat glands) พบได้ทั่วร่างกาย

       - ต่อมที่เกี่ยวกับการสร้างกลิ่นตัว ซึ่งทำงานสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ (Apocrine glands) ต่อมนี้คือเบื้องหลังคำว่า กลิ่นหนุ่ม กลิ่นสาว และเป็นต่อมสำคัญในการสร้างฟีโรโมนมนุษย์ ที่ถือได้ว่าเป็นต่อมพิเศษด้านกลิ่น และความรักและอารมณ์พิศวาส ซึ่งกลิ่นที่ออกมาพร้อมสารเคมีพิเศษนี้สามารถส่งผลกระทบระหว่างบุคคลได้ นั่นหมายความว่าเมื่อกลิ่นนี้ถูกขับออกมาจากบุคคลหนึ่ง แล้วมีบุคคลอื่นอยู่ใกล้ ๆ และได้รับ ก็อาจ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกได้เลยทีเดียว
       ต่อม Apocrine glands ทำงานได้โดยไม่จำกัดอุณหภูมิ แต่จะพัฒนาใช้การได้เริ่มในวัยหนุ่ม-วัยสาว อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปจนถึง 15 ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ โดยจะปรากฏอยู่บริเวณมือ แก้ม หนังศีรษะ หน้าอก เป็นต้น
       จากต่อมทั้ง 3 นี้ จะเห็นได้ว่าบางสิ่งที่เกิดขึ้น ในร่างกาย บางครั้งเราเคยได้รับผลของมัน ซึ่งเกิดขึ้นเพราะสารแห่งความรักที่เรียกว่า ฟีโรโมน หากบางคน ยังสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือ ลองนึกดี ๆ ว่าคุณเคยจดจำคนคนหนึ่งจากกลิ่นของเขาหรือไม่ ไม่ว่ากลิ่นเรือนผม จดจำจากกลิ่นหอมจากแก้ม นี่ล่ะฟีโรโมนมนุษย์และต่อมสร้างกลิ่น




ฟีโรโมน เคมีความรักอันลึกลับ

       อย่างที่ได้ทราบถึงต่อมต่าง ๆ ที่มีผลต่อ การสร้างกลิ่นแห่งความรักของมนุษย์ จะเห็นว่า ฟีโรโมนมนุษย์ไม่เพียงควบคุม ส่งผลต่ออารมณ์เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลต่อความรู้สึกที่ซับซ้อนของอารมณ์รัก ด้วย โดยเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า มนุษย์ยังหลังเหลือมรดกทางพฤติกรรมจากสัตว์ เช่น ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่Apocrine glands จะคอยปล่อยกลิ่นเพื่อสื่อสารและ การรับรู้ในการเจริญพันธุ์ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการสื่อสารแห่งความรักด้วยความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อ กัน
       ในปี 1986 ได้มีองค์กรระดับโลกที่ทำการสำรวจด้านกลิ่นหอม กลิ่นมนุษย์ใช้ปรุงแต่งร่างกาย และกลิ่นต่าง ๆ ที่พบในชีวิตประจำวัน ในแบบสอบถามกว่าล้านฉบับ พร้อมยกตัวอย่างกลิ่นต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์รักของมนุษย์นั้น ได้ผลออกมาว่า กลิ่นที่นั้น ๆ ไม่สร้างผลใด ๆ รวมถึงค้นหาผลกระทบของกลิ่นต่าง ๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการทดสอบด้านกลิ่นนี้ ไม่ได้ผล เนื่องจากการสังเคราะห์กลิ่นขึ้นมาไม่ใช่กลิ่น ที่แท้จริง จึงไม่ทำให้เกิดผล โดยมันพิสูจน์ว่าการค้นหา ฟีโรโมนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะวัดหรือสำรวจได้ชัดเจน


กลิ่นกับคู่รัก ลึกลับซับซ้อน

       มีการศึกษาจากมากมายหลายครั้งเกี่ยวกับ การทดสอบว่า กลิ่นมีส่วนกับความชื่นชอบ ชื่นชม และมีเสน่ห์ที่ทำให้เกิดความหลงใหล ไม่ว่ากับคนหรือสัตว์ โดยมีข้อสันนิฐานคล้ายกัน คือ เพศชายมีความสามารถส่งกลิ่นที่ทำให้เพศตรงข้ามใหลได้ดีกว่า โดยจากการหนึ่งที่พิสูจน์ว่าเพศชายมีความสามารถส่งกลิ่นรักมากกว่า คือ การศึกษาของนักชีววิทยา จาก Cardiff University ประเทศเวลล์ ที่ร่วมมือกับ สมาคมวิทยาศาสตร์ Max-Plank Society จากประเทศเยอรมนี ได้ทำการศึกษาปลาสติกเคิลแบกค์ (Stickleback fish) เพื่อดูการตอบสนองต่อเคมีความรัก
       นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาพบว่า เพศผู้ มีกลิ่นกายที่ดึงดูดอย่างจำเพาะต่อ เพศเมีย จนทำให้ผลิตเปปไทด์ ซึ่งจะทำไปสังเคราะห์รวมกับเพื่อผลิตน้ำหอม มีคุณสมบัติในการเพิ่มความดึงดูดทางเพศของผู้ชายให้มากขึ้น และยังมีความสำคัญต่อการค้นหาคู่ที่เหมาะสมเข้าคู่กันอีกด้วย ดังนั้น หากกล่าวง่าย ๆ คือ เคมีจากร่างกายเพศผู้นั้นจะเชื่อมโยงกันกับเคมีของเพศเมีย ที่มีกระบวนการหนึ่งของร่างกายที่เรียกว่า Major Histocompatibility Complex (MHC) มีหน้าที่เพื่อดักจับ แยกแยะสาร หรือโมเลกุลใดที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นเปปไทด์ที่เพศเมียปล่อยออกมาเมื่อได้กลิ่นจากเพศผู้นั่นเอง ที่อาจเรียกว่าจะเข้ากันได้ รักกันได้นั้นต้องเข้ากันตั้งแต่ระดับ ยีนเลย 


กระบวนการของ MHC และ Peptide

       นักชีววิทยา ดอกเตอร์เซียน กริฟฟีตส์ (Dr. Sian Griffiths) กล่าวถึงการทดลองว่า กระบวนการนี้ถือเป็นการสื่อสารเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ และคัดเลือกคู่ซึ่ง มีอยู่สัตว์ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์ก็ใช้กระบวนการเดียวกันนี้
       ความ รักลึกลับซับซ้อนเกินกว่าจะพิสูจน์ อะไรได้ง่าย ๆ แต่วิทยาศาสตร์นั้นก็ยังคงความเป็นศาสตร์แห่งเหตุและผล ที่พยายามพิสูจน์ว่า รักเกิดเพราะอะไร แม้จะไม่อาจสรุปชัดเจน แต่วันนี้ก็รู้แล้วว่า เราควรพิถีพิถันเลือกน้ำหอมหรือรักษาเนื้อตัวให้มีกลิ่นกายที่น่าหลงใหล เพื่อให้กระบวนการร่างกายเราได้ปล่อยสารเคมีแห่งความรักไปกับกลิ่น เพื่อให้รักของเราลึกซึ้ง ลึกไปในระดับพันธุกรรม ลึกกว่าใครมองเห็น และลึกซึ้งตลอดไป...


_______________________________

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
1. www.sciencedaily.com
2. www.psychologytoday.com

SOURCE :
"กลิ่น" เคมีแห่งความรัก หอมหวน..ตราตรึง
SCI Cover Story วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2551

    About Me

    รูปภาพของฉัน
    กรุงเทพ, Thailand
    BLOG เกี่ยวกับ น้ำหอม น้ำหอมแท้ น้ำหอมแบรนด์เนม น้ำหอมฟีโรโมน ฟีโีรโมน กลิ่นเรียกรัก เพิ่มรัก สร้างเสน่ห์ ปลุกอารมณ์ หญิง ชาย ทอม ดี เลสเบี้ยน เกย์ กระเทย เห็นผลแน่นอน ของแท้ 100% รวมบทความวิจัยประสาืทสัมผัส รับรู้กลิ่น รีวิว pheromone

    *** support by http://www.pheromoneTH.com ***

    PheromoneTH's Fan Box

    oxytocin (7) น้ำหอมผูกพัน (6) Liquid Trust (5) น้ำหอมฟีโรโมน (4) น้ำหอมแท้ (4) อ๊อกซิโทซิน (4) sex (3) ฟีโรโมน (3) วิจัย (3) อ๊อกซิโตซิน (3) love (2) กลิ่น (2) กลิ่นน้ำหอม (2) ทำให้รัก (2) น้ำหอม (2) บทความ (2) วิทยาศาสตร์ (2) วิธีเลือกน้ำหอม (2) diary (1) faq (1) perfume (1) pheromone (1) review (1) testosterone (1) tip (1) top rank (1) unisex (1) verolabs (1) กลิ่นตัว (1) กลิ่นเปลี่ยน (1) ความรัก (1) คุยกันเล่น (1) ดึงดูดชาย (1) ตำรา (1) ถามตอบ (1) นิยม (1) น้ำหอมผู้ชาย (1) น้ำหอมผู้หญิง (1) น้ำหอมแห่งความผูกพัน (1) ประสาทสัมผัส (1) ประโยชน์ (1) ผู้หญิง (1) มัดใจชาย (1) มารยาหญิง (1) รวมคำถาม (1) รักคืออะไร (1) รักแรกพบ (1) ราศี (1) รีวิว (1) ร้านขายน้ำหอมฟีโรโมน (1) ลิควิดทรัส (1) สินค้าใหม่ (1) หื่น (1) อารมณ์ (1) อารมณ์ทางเพศ (1) ฮอร์โมน (1) เหตุผล (1) เอาใจสามี (1)